พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
1. “เด็ก” ความหมายตามข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ข. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
X บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ง. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
2. “เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด” ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เด็กที่ประพฤติตนไม่สมควร
ข. เด็กที่ประกอบอาชีพหรือคบหาสมาคมกับบุคคลที่น่าจะชักนำไปในทางกระทำผิดกฎหมายหรือขัดต่อศีลธรรมอันดี
ค. เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสถานที่อันอาจชักนำไปในทางเสียหาย
X เด็กที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต เด็กที่ไม่ปรากฏบิดามารดาหรือไม่สามารถสืบหาบิดามารดาได้
3. “นักเรียน” ความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
X เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทั้งประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
ข. เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
ค. เด็กซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งกำลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ง. ผู้ที่กำลังศึกษาเล่าเรียนในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
4. สถานที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์ ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่ 6 คนขึ้นไปข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. สถานแรกรับ
X สถานสงเคราะห์
ค. สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
ง. สถานพัฒนาและฟื้นฟู
5. สถานที่ โรงเรียน สถาบัน หรือศูนย์ที่จัดขึ้นเพื่อให้การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการศึกษา แนะแนว และการฝึกอบรมอาชีพแก่เด็กที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นกรณีพิเศษ ตรงข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. สถานแรกรับ
ข. สถานสงเคราะห์
ค. สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
X สถานพัฒนาและฟื้นฟู
6. ประธานกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ประกอบด้วยข้อใดถูกต้องที่สุด
X รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
7. รองประธานกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ประกอบด้วย ข้อใดถูกต้องที่สุด
X ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ปลักระทรวงยุติธรรม
8. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
X มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
ค. มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
ง. มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 5 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
9. ผู้ปกครองจะต้องปฏิบัติต่อเด็ก ข้อใดถูกต้องที่สุด
X ให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น
ข. คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนมิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ
ค. ส่งเสริมการดำรงชีวิตหรือสุขภาพอนามัยที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
ง. ส่งเด็กให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับ
10. ผู้ใดพบเห็นเด็กตกอยู่ในสภาพจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ข้อใดถูกต้องที่สุด
X จะต้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
ข. แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง โดยมิชักช้า
ค. แจ้งผู้มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก
ง. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมิชักช้า
11. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจและมีหน้าที่เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ เพื่อตรวจค้น ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ในกรณีใดถูกต้องที่สุด
ก. มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำทารุณกรรมเด็ก
ข. มีการกักขังหรือเลี้ยงดูโดยมิชอบ
ค. ไม่ส่งเด็กให้ได้รับการศึกษาภาคบังคับ
X ถูกข้อ ก และ ข
12. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจและหน้าที่ซักถามเด็กเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเด็กจำต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ อาจนำตัวเด็กไปยังที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว ทั้งนี้ จะต้องกระทำโดยมิชักช้า ไม่ว่ากรณีใด จะกักตัวเด็กไว้ตามข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. นานเกินกว่า 4 ชั่วโมงไม่ได้
ข. นานเกินกว่า 6 ชั่วโมงไม่ได้
X นานเกินกว่า 12 ชั่วโมงไม่ได้
ง. นานเกินกว่า 24 ชั่วโมงไม่ได้
13. เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. เด็กที่ถูกทารุณกรรม
ข. เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
ค. เด็กที่ต้องหาว่ากระทำอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องรับโทษอาญา
X เด็กเร่ร่อนหรือเด็กกำพร้า
14. การส่งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือสถานที่อื่นใดระหว่างการสืบเสาะและพินิจเพื่อหาวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมให้กระทำได้ตามข้อใด
X ไม่เกิน 7 วัน
ข. ไม่เกิน 15 วัน
ค. ไม่เกิน 30 วัน
ง. ตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นสมควร
15. ผู้ใดมีอำนาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูได้ทั่วราชอาณาจักร
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
X ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
16. ผู้ใดมีอำนาจจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูได้ภายในเขตจังหวัดนั้น
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
X ผู้ว่าราชการจังหวัด
17. ผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายในจังหวัด ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
X ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. นายอำเภอท้องที่นั้น ๆ
18. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 กำหนดให้โรงเรียนและสถานศึกษาต้องจัดให้มีระบบงานและกิจกรรมในการแนะแนวให้คำปรึกษาและฝึกอบรมแก่นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองโดยมีวัตถุประสงค์ตามข้อใด
ก. ส่งเสริมความประพฤติที่เหมาะสม
ข. ความรับผิดชอบต่อสังคม
ค. ความปลอดภัยแก่นักเรียนและนักศึกษา
X ถูกทุกข้อ
19. นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา และตามที่กำหนดในกฎกระทรวง นักเรียนหรือนักศึกษาผู้ใดฝ่าฝืน พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามข้อใดถูกต้องที่สุด
X ให้นำตัวไปมอบแก่ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษาของนักเรียนหรือนักศึกษานั้นเพื่อดำเนินการสอบถามและอบรมสั่งสอนหรือลงโทษตามระเบียบ และแจ้งให้ผู้ปกครองว่ากล่าวตักเตือนหรือสั่งสอนเด็กอีกชั้นหนึ่ง
ข. แจ้งให้ผู้ปกครองว่ากล่าวตักเตือนหรือสั่งสอนเด็ก
ค. ลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาโดยกักตัวไว้จนกว่าผู้ปกครองจะมารับกลับ
ง. ปรับผู้ปกครองนักเรียนหรือนักศึกษาในฐานไม่ดูแลความประพฤติ
20. ให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้งกองทุนขึ้นอีกกองทุนหนึ่ง เรียกว่า “กองทุนคุ้มครองเด็ก” เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็กที่อยู่ในสังกัด ข้อใดถูกต้อง
X สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. กระทรวงการคลัง
21. ประธานกรรมการ คณะกรรมการบริหารกองทุน ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
X ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
22. การดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารกองทุนข้อใดถูกต้องที่สุด
ก. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 1 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
ข. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
X กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 3 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
ง. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน
23. ผู้สอบบัญชีของกองทุนดำเนินการทุกรอบปีแล้วทำรายงานผลการสอบและรับรองบัญชีและการเงินของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการคุมครองเด็กแห่งชาติภายในกี่วัน
ก. ภายใน 60 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี
ข. ภายใน 90 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี
ค. ภายใน 120 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี
X ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี
24. ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับความประพฤติของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่างเวลาทำการ เพื่อทำการตรวจสอบการฝ่าฝืนดังกล่าว ผู้ใดไม่อำนายความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่มีโทษตามข้อใด
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
25. ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
26. ผู้ใดโฆษณาทางสื่อมวลชนหรือเผยแพร่ด้วยประการใด เพื่อรับเด็กหรือยกเด็กให้แก่บุคคลอื่นที่มิใช่ญาติของเด็ก เว้นแต่เป็นการกระทำของทางราชการ มีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
27. ผู้ใดบังคับขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน มีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
28. ผู้ใดบังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดง หรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด มีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
29. ผู้ใดจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก มีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
30. ผู้ใดกระทำการอันเป็นการยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีโทษตามข้อใด
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
X ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สนใจไฟล์สรุปเนื้อหาและแนวข้อสอบเน้นๆ อัพเดทล่าสุด สอบครูผู้ช่วย 2564 คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ >> [Ebook สอบครูผู้ช่วย 2564]